Agusta
บิ๊กไบค์ซุปเปอร์สปอร์ต MV Agusta F4R แชมป์เปี้ยนส์แห่งอิตาลี

สำหรับเจ้าซุปเปอร์ไบค์คันนี้มาพร้อมความแรง 195 แรงม้า ที่พร้อมพาคุณซ่าแบบไม่มีลิมิต ด้วยความแรงของมัน คุณจะได้สัมผัสความแรงในแบบที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนแน่นอน สำหรับภาพรวม MV Agusta F4R รุ่นปี 2014 ยังคงร้อนแรงในตลาดรถปี 2015 ทั้งขุมกำลังและการออกแบบถือว่าลงตัวจริงๆครับ

เฉดสีและ MV Agusta F4R
สีสันภายนอกของ เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ4 อาร์ ออกแบบมาให้เลือกกันสองสีด้วยกัน สีแรก เป็นทูโทน เป็นการผสมผสานความเท่กันระหว่างสีแดงกับสีเทา, สีที่สองคือสีขาว ที่โดดเด่นด้วยสีขาวเต็มคัน พร้อมกราฟฟิค ตัว R สีแดงเบาๆเพิ่มบารมีความโฉบเฉี่ยว เฟี้ยวกว่ากับราคาหลักล้าน MV Agusta F4R จัดเต็มทุกคันจริงๆ กับราคาที่แพงเว่อร์ถึง 1,469,000 บาท เรียกว่าเป็นบิ๊กไบค์ที่ราคาสูงมากๆเลยทีเดียว สำหรับ SPORT SEGMENT กลางแบบนี้ แต่ก็ยังมีหลายคนยอมซื้อเพราะว่ามันเจ๋งจริงๆ
การดีไซน์ภายนอกของ เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ4 อาร์ คมเข้มเป็นพิเศษ ด้วยไฟหน้าสไตล์สปอร์ตอิตาเลียน เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์มากๆ ชิลหน้าก็ใช้แบบเดียวกันกับสปอร์ตรุ่นอื่นในค่าย มาตราวัดความเร็วดีไซน์เท่ อ่านสบาย และมีความแม่นยำสูง แฮนด์บาร์ดีไซน์ต่ำแบบหมอบขี่ ตัวถังดีไซน์เรียบหรูทรงสปอร์ต มองไกลๆก็เท่ มองใกล้ๆ ยิ่งเท่เข้าไปใหญ่ เบาะนั่งออกแบบมาให้เป็นแบบแยกสองที่นั่ง แต่ก็นั่งสบายทั้งเบาะคนขับและเบาะคนซ้อน

ไฟท้ายสะท้อนทุกพลังแสงได้เป็นอย่างดี ล้อแม็กซ์ดีไซน์แบบ 6 ก้านตัววายดีไซน์ใหม่ ไม่เหมือนใคร ใครเห็นก็ต้องอิจฉาแน่นอน การออกแบบภายนอกถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ มิติภายนอกของ MV Agusta F4R บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ต มีความยาว 2,115 มิลลิเมตร มีความกว้าง 750 มิลลิเมตร มีความสูง 830 มิลลิเมตร และรวมแล้วมีน้ำหนักเพียงแค่ 191 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเป็นสปอร์ตไบค์ ล้ำมิติอีก 1 คันที่น่าสนใจมากๆ

ด้านขุมกำลังเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ของ MV Agusta F4R
มาพร้อมวามเร้าใจของสปีดจากเกียร์ธรรมดาแต่ว่าไม่ธรรมดา
เพราะว่าสามารถปรับสปีดความแรงได้ถึง 6 สปีดแบบคอนสแตนเมช ในเครื่องยนต์ 4
กระบอกสูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว
พร้อมสร้างกำลังสูงสุดได้อย่างอลังการแบบ 195 แรงม้าที่ 13,400 รอบต่อนาที
ระบายความร้อยด้วยระบบน้ำ ใครที่อยากขับขี่
ก็แค่สตาร์ทด้วยระบบสตาร์ทไฟฟ้าที่มือสำหรับซุปเปอร์ไบค์สัญชาติอิตาเลียน
คันนี้มีปริมาตรกระบอกสูบที่ 998 ซีซี
เป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะที่ใช้การจุดระเบิดแบบ อินทีเกรท อิกนิชั่น
พร้อมรองรับเชื้อเพลิงทั้ง แก๊สโซฮอล์ 95 E10 เบนซิน
ซึ่งจ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด พร้อมรองรับน้ำมันได้ถึง 17
ลิตรเลยทีเดียว เจ๋งสุดๆไปเลยครับ
มั่นใจในการเซฟตี้อย่างปลอดภัยด้วยระบบกันสะเทือนหน้าของ เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ4 อาร์ ใช้แบบเทโลสกอปิค ขนาด 50 มิลลิเมตร ยุเอสดี ที่สามารถยุบตัวได้ถึง 120 มิลลิเมตร ผสานการทำงานกับระบบกันสะเทือนหลังแบบ โมโนช็อค ที่ปรับความแข็งของสปริงได้ ด้วยพรีโหลด ที่ยุบตัวได้ถึง 120 มิลลิเมตร เจ๋งไปกว่านั้น เมื่อมอเตอร์ไซค์คันนี้ มาพร้อมระบบดิสก์เบรคหน้าแบบ เบรมโบ้ แม่ปั๊มสี่ลูกสูบ และเบรคหลังแบบดิสก์เบรค นิสซิน แม่ปั๊มสองลูกสูบ ทำให้เบรคนุ่มนวล กระชับ และปลอดภัยจนคุณต้องประทับใจแน่นอน

สำหรับความเจ๋งของประสิทธิภาพและราคาของ MV Agusta F4R ถือว่าค่อนข้างโอเค ทั้งความแรง ทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้ใช้นวัตกรรมพิเศษในการรังสรรค์ออกมาถือว่ามันเท่สุดๆและใครๆก็อยาก เป็นเจ้าของ
รุ่นและราคา MV Agusta F3 800 ABS หล่อขั้นเทพ เท่ทุกตารางนิ้ว

และนี่คือซุปเปอร์ไบค์ตัวจริง ที่คุณจะต้องตื่นเต้นไปกับความมันส์ระดับพระกาฬ ไม่ใช่แค่ความแรงระดับกลางเท่านั้น แต่คุณยังจะได้สัมผัสดีไซน์ระดับไฮคลาสที่ผสมผสานความเป็นพรีเมี่ยมได้อย่าง ลงตัว สำหรับ MV Agusta F3 800 ABS บิ๊กไบค์รุ่นนี้ค่อนข้างมีโฉบเฉี่ยวและดูทรงพลังมากๆ

เฉดสีและราคา MV Agusta F3 800 ABS
เฉดสีภายนอกของ เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ 3 800 เอบีเอส ออกแบบมาให้เลือกซื้อกันสามเฉดสีด้วยกัน สีแรก สีแดงเทา เป็นการใช้สีแดงตัดกับสีเทาได้อย่าสวยงาม บริเวณครอบไฟหน้า ตัวถังและครอบไฟท้าย จะใช้สีแดงในครึ่งบน และส่วนด้านข้างลงไปถึงด้านล่างจะใช้สีเทา ตัดกับโคลงเหล็กสีแดงได้อย่างสะดุดตา ,ต่อมาสีขาวเทา เร้าใจสไตล์สปอร์ต ด้วยสีทูโทนสุดพรีเมี่ยมคู่นี้ ใช้ครึ่งบนเป็นสีข้าง โดยไล่ตั้งแต่ครอบไฟหน้า ตัวถัง ไปจนถึงครอบไฟท้าย ส่วนซีกล่างของบิ๊กไบค์ใช้เป็นสีเทา ตัดกับโคลงเหล็กสีแดงได้อย่างลงตัว
สุดท้ายสีดำ ดำล้วนทั้งคันดุดันสุดๆ ไม่ว่าจะส่วนบนหรือส่วนล่างก็ใช้สีดำ แต่เพิ่มความสะดุดตาด้วยลูกเล่นจากโคลงเหล็กสีแดง ที่ตัดกับสีดำได้อย่างเฉียบคม เรียกว่าเป็นทูโทนที่สวยงามมากๆ สำหรับราคา MV Agusta F3 800 ABS ก็มีการวางจำหน่ายในหลักล้านเลยครับ รู้กันว่าแบรนด์นี้แพงอยู่แล้ว แต่หลายๆคนก็ยังยอมควักเงิน 1,099,000 บาท เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์คันนี้

ดีไซน์ภายนอก เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ 3 800 เอบีเอส เท่ด้วยครบไฟหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟหน้าดีไซน์เท่ ชิลล์หน้าดีไซน์ปราดเปรียวสะกดทุกสายตา มาตราวัดความเร็วออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ตัวดีมีขนาดใหญ่สปอร์ตโดนใจ เบาะนั่งออกแบบมาให้มีองศาที่กำลังพอดี สามารถนั่งได้สองคน เป็นเบาะนั่งแบบแยกดีไซน์พิเศษ

ไฟท้ายเท่สะกดทุกสายตา พร้อมไฟเลี้ยวแบบซ่อนในองศาพิเศษ วงล้อเท่มีสไตล์ด้วยแม็กซ์แบบใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน มิติภายนอกของ MV Agusta F3 800 ABS มอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตคันนี้ มีระยะฐานล้อที่ 1,380 mm (54.33 in.) ยาว 2,060 mm (81.01 in.) กว้าง 725 mm (28.54 in.) พร้อมระยะแฮนด์บาร์ที่ 805 mm (31.69 in.) ใต้ท้องรถมีความสูง 125 mm (4.92 in.) น้ำหนักรถอยู่ที่ประมาณ 173 kg (381.4 lbs.) พร้อมจุน้ำมันได้ 16.5ลิตร (4.36 U.S. gal.)

ด้านขุมกำลังของมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตคันนี้
เครื่องยนต์ของ MV Agusta F3
800 ABS ใช้แบบสามกระบอกสูบ สี่จังหวะ 12 วาล์ว
ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 798 ซีซี หรือประมาณ 48.7 คิวบิคอิ้นช์
พร้อมให้อัตราการอัดที่ 13.3:1 มีระยะการชักกระบอกสูบอยู่ที่ประมาณ 79 mm x
54.3 mm (3.1 in. x 2.1 in.) แรงเร้าใจด้วยกำลังสูงสุดที่ 108.8 kW (148
hp) at 13.000 รอบต่อนาที พร้อมสร้างแรงบิดได้ถึง 88 Nm (8.97 kgm) at
10.600 รอบต่อนาที
เริ่มต้นความมันส์ด้วยระบบสตาร์ทอิเล็กโทรนิกส์ พร้อมระบายความร้อยด้วยของเหลวและน้ำมัน จ่ายเชื้อเพลิงอย่างชาญฉลาดด้วยระบบการส่งน้ำมันจาก injection system MVICS (Motor & Vehicle Integrated Control System) จัดเต็มด้วยระบบคลัทช์ Wet, multi-disc slipper clutch พร้อมระบบเกีบร์แบบ 6 สปีด ในส่วนของอิเล็คทริคัล อีควิปเม้นท์ก็มีทั้ง Voltage 12 V พร้อมอัลเตอร์เนเตอร์ 350 W ที่ 5000 รอบต่อนาที พร้อมแบตเตอรี่ 12 V – 8.6 Ah จนทำให้บิ๊กไบค์คันนี้สามารถสร้างแม็กซ์สปีดได้ที่ 269.0 km/h (167.1 mph)

ความปลอดภัยของ MV Agusta F3 800 ABS แกร่งตั้งแต่โครงสร้างด้วยการใช้เฟรมประเภท ALS Steel tubular trellis พร้อม swing arm pivot plates material Aluminium alloy โดนใจไปกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Marzocchi อัพไซด์ดาวน์ telescopic และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Progressive Sachs, single shock เบรคปลอดภัยมั่นใจทุกครั้งด้วยระบบเบรคหน้าแบบ Double floating disc และระบบเบรคหลังแบบ Single steel disc
รุ่นและราคา MV Agusta Brutale 800 ABS Naked Bike สุดเนี๊ยบ

นี่คือความแปลกใหม่ในการออกแบบ พร้อมเน้นช่วงล่างที่ออกแบบมาใหม่เป็นพิเศษ ให้ทรงตัวได้ดีกว่าเดิม ยิ่งในเรื่องของระบบการทำงานอิเล็คโทรนิคส์ยิ่งสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่าง ดี สำหรับ Segment นี้ นอกจากนี้ MV Agusta Brutale 800 ABS ยังมีลายกราฟฟิคที่โดดเด่นเป็นอย่างดี ถือว่าค่อนข้างเหนือชั้นเลยทีเดียว สำหรับเส้นสายที่สะดุดตาแบบนี้

เฉดสีและราคา MV Agusta Brutale 800 ABS
เฉดสีภายนอกของ MV Agusta Brutale 800 ABS ออกแบบมาให้มีให้เลือก 3 สี สีแรก คือสีดำ ตัดกับโคลงสีแดง, สีที่สองคือสีขาว ใช้ตัวถังสีขาว และบอดี้ข้างตัวถังสีขาว ตัดกับโคลงเหล็กสีแดง และบอดี้ส่วนอื่นๆสีดำได้อย่างสวยงาม สุดท้ายสีแดง ใช้ตัวถังสีแดง ลากยาวมาจนถึงบอดี้ส่วนล่างของเบาะนั่งผู้ขับขี่ และโคลงเหล็กสีแดง ตัดกับ บอดี้เฟรมสีเทาเงินสะดุดตาบริเวณข้างตัวถัง และด้านข้างเบาะนั่งผู้ซ้อน และบอดี้ส่วนอื่นๆสีดำอย่างเข้มโดนใจ สำหรับราคา MV Agusta Brutale 800 ABS ในตลาดรถประเทศไทย มีการวางจำหน่ายที่ 949,000 บาท. แพงพอตัวเลยทีเดียว
การออกแบบภายนอกของ เอ็มวี ออกุสต้า บรูเทล 800 เอบีเอส โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดเฉียบพร้อมท่อไอเสีย 3 ท่อเรียงสุดเท่ สะดุดตาด้วยไฟท้ายสีสด ส่องสว่าง ร้อนแรงมีสไตล์ ตัวถังดีไซน์ทันสมัย โค้งมนได้รูป ไฟหน้าดีไซน์แบบซิงเกิ้ล ขนาดใหญ่ มีสไตล์มากๆ
โดยออกแบบมาให้มีความเป็นยุโรปแท้ๆ โดยใช้โคลงเหล็กท่อกลมแบบไขว้และเครื่องยนต์ที่จัดวางมาได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้ง ยังใช้ล้อแม็กซ์ ลายพิเศษดีไซน์สปอร์ตได้อย่างสวยงาม ในส่วนของเบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งได้สองคน มีสไตล์สุดๆ และมาตราวัดความเร็วก็ดีไซน์พิเศษ เหนือชั้นมากๆ

ด้านขุมกำลังและความปลอดภัย
ในส่วนของเครื่องยนต์ MV Agusta Brutale 800 ABS
จัดเต็มด้วยเครื่องยนต์ขนาดกลางแบบ Three cylinder, 4 stroke, 12 valve
ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 798 cm3 (48.68 cu. in.)
มีอัตราการอัดของกระบอกสูบที่ 13.3:1 Starting Electric
มีระยะการชักของกระบอกสูบที่ 79 mm x 54.3 mm (3.1 in. x 2.1 in.) Max.
power 92 kW (125 hp) at 11.600 r.p.m. และมีแรงบิดสูงสุดที่ 81 Nm (8.25
kgm) at 8.600 r.p.m. Cooling system Cooling with separeted liquid and
oil
มีเอ็นจิ้น เมเนจเม้นท์ ซิสเต็ม อินทีเกรท แบบ injection system MVICS (Motor & Vehicle Integrated Control System) เหนือชั้นด้วย technology, control of detonation and misfire โดนใจกับระบบคลัทช์แบบ multi-disc with mechanical drive Transmission และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ six speed, constant mesh ได้อย่างกระชับ และนุ่มนวลทุกสปีด

ความปลอดภัยของ MV Agusta Brutale 800 ABS ใช้เฟรมประเภท ALS Steel tubular trellis พร้อม สวิงอาร์ม ไพวอท เพลตส์ เมเทเรียล อลูมิเนียมอัลลอย โดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Marzocchi “UPSIDE DOWN” telescopic hydraulic fork with rebound-compression แดมปิ้ง และสปริงพรีโหลด เอ็กซ์เตอร์นัล และซีพาเรท แอดจัสเม้นท์

พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ Progressive Sachs, single shock absorber with rebound and compression damping and spring preload adjustment ซิงเกิ้ลไซด์ สวิงอาร์ม เมเทอเรียล อลูมิเนียม อัลลอย พร้อมระบบเบรคหน้าแบบ ดับเบิ้ลโฟลตติ้ง ดิสก์และระบบเบรคหลังแบบซิงเกิ้ล สตีลดิสก์ พร้อมระบบเบรกเอบีเอส

ภาพรวมของ MV Agusta Brutale 800 ABS ถือว่าค่อนข้างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในเรื่องของการดีไซน์ และการใช้งาน อย่างเต็มสมรรถนะ เมื่อเทียบกับ เน็คเก็ดไบค์เซ็กเม้นเดียวกันในตลาดรถ อย่าง Kawasaki Z800 ขนาด806 ซีซี ดีไซน์เท่ไม่แพ้กัน ถือว่าตอบโจทย์คนรักบิ๊กไบค์ได้ทั้งคู่ แต่ราคา KAWASAKI ถูกกว่าเพราะว่าเป็นรถญี่ปุ่นนั่นเอง
2015 MV Agusta Stradale 800 สุดยอดสปอร์ตทัวร์ริ่ง

สำหรับความสวยงามก็ยอดเยี่ยมโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวสุดๆ พร้อมลุยทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะขึ้นเขาลงเขา หรือจะขับขี่ในเมืองสร้างทราฟฟิคเจ๋งๆเป็นของตัวเองก็สนุกได้เต็มที่ทุกไมล์ เพียงแค่คุณมาสัมผัส ก็สามารถสนุกไปกับอีโมชั่นในการเดินทางแบบใหม่ได้แล้ว ภาพรวมถือว่า MV Agusta Stradale 800 รุ่นปี 2015 เป็นบิ๊กไบค์ที่มีการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่นสุดๆ และมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เฉดสีและราคา MV Agusta Stradale 800
สำหรับเฉดสีภายนอก เอ็มวี ออกัสต้า สตราเดล 800 มีสีมาให้เลือก 3 สีเลยทีเดียว ซึ่งปกติเราจะเห็นได้ว่า จะออกมาแค่รุ่นละ 2 สีเท่านั้น สำหรับสีแรกก็คือ PEARL WHITE/SAND METALLIC GREY สีขาวมุกตัดกับสีเทาอมน้ำตาลเมทัลลิค สีที่สองคือ RED/SILVER สีแดงตัดเงิน เรียกว่าเป็นสีหลักของค่ายนี้เลยก็ได้ และเป็นเฉดสีที่บ่งบอกความเป็นอิตาเลียนได้อย่างชัดเจนสุดท้ายเป็นสี BRONZE METALLIC/PEARL WHITE สีบรอนซ์เมทัลลิค ตัดกับสีขาวมุก สวยงามสะดุดตาเหมือนกันครับ มีสองขาวให้เลือกแบบนี้คนเลือกคงจะอดใจไม่ไหวแน่นอนว่าจะเอารุ่นไหน มีลังเลแน่ๆ ว่าจะเอา บรอนซ์ขาว หรือ ขาวเทา ดี สำหรับราคา MV Agusta Stradale 800 ก็แน่นอนว่าหลักล้านแน่ๆ เพราะแบรนด์นี้ไม่เคยขายของราคาต่ำครับ โดยสปอร์ตเอ็นดูโร่รุ่นนี้ มีราคาถึง 1,090,000 บาท หรือประมาณ 11,599 ยูโร นั่นแหละครับ

การดีไซน์ของมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ค่อนข้างหน้าสนใจ MV Agusta Stradale 800 ใช้ไหน้าแบบข้าวหลามตัด ทำให้สามารถส่งพลังแสงได้อย่างชัดเจน ในส่วนของไฟเลี้ยว เฉียบคมยิ่งกว่า ด้วยการติดตั้งไฟเลี้ยวแบบพิเศษ เวลาเปิดไฟจะขึ้นเป็นวงไฟกลมๆ ประมาณ 5 วง พร้อมไฟสีขาวปลายหลังที่ครอบแฮนด์บาร์ ชิลล์หน้าปราดเปรียวเป็นพิเศษเหมือนมาสก์ไรเดอร์เลยทีเดียว กระจกมองข้างก็ใช้แบบก้านสั้นเพิ่มความกระทัดรัดได้เป็นอย่างดี ในส่วนของครอบไฟหน้า ต้องบอกว่า ออกแบบมาได้อย่างสวยงามมากๆ ดูสปอร์ตสวยจริงๆ

มาตราวัดความเร็วใช้จอดิจิตอลขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจนถึงใจสุดๆ พร้อมแสดงอัตราความเร็วแบบกิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงตำแหน่งของเกียร์แบบดิจิตอล แสดงการใช้งานของเครื่องยนต์ แสดงปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง แสดงสถานะการใช้งานของรบเบรคเอบีเอส พร้อมแสดงเวลาแบบดิจิตอล ลงมาใต้หน้าจอจะมีสัญญาณไฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว ไฟสูงไฟต่ำ สัญลักษณ์เบรคเอบีเอส น้ำมัน เกียร์ และอื่นๆอีกมากมาย

ขุมกำลังเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ของ MV Agusta
Stradale 800 ใช้แบบ Three cylinder, 4 stroke, 12 valve
ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ พร้อมไฮโดรลิค เชน เนซิโอเนอร์
มีโททัลดิสเลซเม้นท์ที่ 798 cm3 (48.7 cu. in.) พร้อมอัตราการอัด 13.3:1
ใช้สตาร์ติ้งแบบ Electric มีระยะการชักของกระบอกสูบที่ 79.0 mm x 54.3 mm
(3.1 in. x 2.1 in.) สร้างแม็กซ์พาวเวอร์ได้ถึง 84.5 kW (115 hp) at 11.000
r.p.m. และมีแรงบิด 78.5 Nm (8.0 kgm) at 9.000 r.p.m. เท่านั้นยังไม่พอ
ในส่วนของระบบ คูลลิ่งซิสเต็ม ใช้แบบ Cooling with separated liquid and
oil radiators จุดระเบิดแบบ Integrated ignition และจ่ายเชื้อเพลิงด้วย
Mikuni มีอิเล็คโทรนิค ควิก ชิฟท์แบบ MV EAS 2.0 (Electronically Assisted
Shift)
ความปลอดภัยของ MV Agusta Stradale 800 มีหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบเบรคเอบีเอสแบบ Bosch 9 Plus with RLM (Rear wheel Lift-up Mitigation) โดยเบรคหลังนั้นจะเป็นแบบ Brembo Single steel disc และเบรกหน้าเป็นแบบ Brembo radial-type Double floating disc วงล้อแข็งแรงด้วยการใช้ล้อแบบ Aluminium alloy ใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Progressive Sachs และระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Marzocchi “UPSIDE DOWN” เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการใช้เฟรมแบบ Marzocchi “UPSIDE DOWN” อีกด้วย

ภาพรวมของสุดยอดสปอร์ตทัวร์ริ่งคัน นี้ ถือว่าค่อนข้างดีเยี่ยม ยิ่งในเรื่องของระบบคลัทช์ไฮโดรลิคและเกียร์ 6 สปีด นั้นทำงานได้อย่างน่าประทับใจมากๆ อิเล็คทริคัล อีควิปเม้นท์ก็ค่อนข้างดี มิติภายนอก MV Agusta Stradale 800 ต้องบอกว่ายิ่งโดดเด่นสุดๆ สำหรับเครื่องยนต์ขนาดกลางในราคาหลักล้านต้นๆแบบนี้ ผมว่าคุ้มครับ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น